FOLLOW US :

สั่งอุทยานฯปลอดถุงพลาสติก รองรับการลดปัญหาขยะทะเล

สั่งอุทยานฯปลอดถุงพลาสติก รองรับการลดปัญหาขยะทะเล

22 พฤศจิกายน 2560
 518

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดให้เขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลทุกแห่งปลอดจากถุงพลาสติก รองรับการแก้ปัญหาลดขยะทะเล

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 ที่ห้องประชุมโรงแรม เจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ทแอนด์สปา อ.ถลางจ.ภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติประเทศไทย (IUCN) จัดการประชุมระดับอาเซียน เรื่อง การลดปริมาณขยะในทะเลในกลุ่มอาเซียน (ASEAN conference on Reducing Marine Debris in ASEAN Region 2017 เพื่อหาแนวทางและมาตรการร่วมกันในการลดปริมาณขยะลงทะเลในกลุ่มประเทศอาเซียน อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เรื่องขยะทะเลให้เป็นที่รับทราบ และเกิดการขับเคลื่อนร่วมกันในกลุ่มประเทศอาเซียน

โดยมีนายวงศ์เทพ อรรถไกวัลวที รองเลขาธิการอาเซียนด้านประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน และพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดนอกจากนี้ยังมี ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวแทนจากสมาชิกกลุ่มอาเซียน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยองค์กรท้องถิ่น นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา สื่อมวลชนตลอดจนประชาชนเข้าร่วมประมาณ 200 คน

 

 

 

ขยะทะเลนับเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศสัตว์ทะเลและการท่องเที่ยวทางทะเลโดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีรายงานผลกระทบที่เกิดจากขยะทะเลบ่อยครั้งเช่นการตายของเต่าทะเล และนกทะเล หลังกินชิ้นส่วนเศษขยะพลาสติกแนวปะการังที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกเศษอวน และเครื่องมือประมงปกคลุมรวมทั้งมีการยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเนื่องจากปัญหาขยะทะเลบริเวณแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลนอกจากนี้ยังพบว่ามีรายงานการกระจายของไมโครพลาสติกหรือขยะพลาสติกขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตรในสิ่งแวดล้อมทางทะเลทั่วโลก ซึ่งมีโอกาสที่จะปนเปื้อนเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและร่างกายมนุษย์

เนื่องจากขยะที่พบเห็นในทะเลอาจจะถูกพัดพาไปได้ในระยะไกลๆ ซึ่งจัดว่าเป็นปัญหามลพิษข้ามแดน ดังนั้นปัญหาขยะทะเลจึงถูกหยิบยกเป็นประเด็นปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและสากล ซึ่งหลายองค์กรมีความพยายามในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวเช่น สหประชาชาติได้กำหนดให้ปัญหาขยะทะเลเป็นหนึ่งในเป้าประสงค์ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14 โดยกำหนดให้มีการป้องกันและลดขยะทะเลภายในปี พ. ศ. 2568 นอกจากนี้ในระดับภูมิภาคอาเซียนปัญหาขยะทะเลก็ได้ถูกหยิบยกและบรรจุอยู่ในร่างแผนยุทธศาสตร์อาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมปี 2559 -2568 ภายใต้ยุทธศาสตร์หลักด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ด้านการลดผลกระทบจากมลพิษทางทะเลและชายฝั่ง

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า การที่ประเทศไทยริเริ่มจัดการประชุม เรื่อง การลดปริมาณขยะทะเลในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อให้ประเทศอาเชียน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมกันกำหนดแนวทางในการจัดการปัญหาขยะทะเลเพื่อเป็นกรอบในการจัดการแก้ไขปัญหาร่วมกันในภูมิภาคอาเชียน เพราะขณะนี้หลายๆ ประเทศได้ให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาขยะทะเล อาทิ จีน เพิ่งจัดการประชุมการจัดการขยะทะเลในเขตเมืองชายฝั่งในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ไปเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขณะที่อินโดนีเชีย อยู่ระหว่างเตรียมงานจัดการประชุมเกี่ยวกับเรื่องขยะทะเลเช่นกัน สำหรับประเทศไทย จากการศึกษาเกี่ยวกับปัญหาขยะทะเลพบว่า ร้อยละ 80 ของขยะทะเลมาจากบนบก ส่วนขยะจากกิจกรรมทางทะเล มีเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ดังนั้น การจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่ง

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาขยะ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา ได้ให้ความสำคัญโดยกำหนดให้ปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาติ โดยเน้นจัดการ ขยะตกค้าง 30 ล้านตัน ให้หมดไป และจัดการขยะใหม่ ปีละ 27 ล้านตัน ต้องลดที่ต้นทาง นำมาใช้ซ้ำและนำกลับมาใช้ใหม่ ทั้งนี้ในปี 2561 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 3Rs Forum ในกลุ่มประเทศเอชีย - แปซิฟิก รวมทั้งการออกกฎหมายและการสร้างวินัยคนในชาติ

ขณะที่ กระทรวงทรัพยากรฯ ยังร่วมมือกับทุกภาคและภาคเอกชน ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันพลาสติก ผลักดันการขับเคลื่อนแผนการจัดการพลาสติก ขยะพลาสติก โดยเน้นหลักการบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พลาสติกชีวภาพ ผลิตภัณฑ์ทดแทนพลาสติก รีไซเคิลพลาสติก นอกจากนี้ ยังร่วมกับภาคเอกชนที่ผลิตน้ำดื่ม การลดและเลิกใช้ cap seal หรือพลาสติกที่หุ้มฝาขวด โดยข้อมูลในปี 2559 พบว่ามีน้ำดื่มที่ใช้ cap seal ถึง 2,600 ล้านขวด/ชิ้น

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องขยะทะเล กระทรวงทรัพยากรฯ กำหนดให้เขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลทุกแห่งปลอดจากถุงพลาสติก และเมื่อช่วงปลายเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้เริ่มโครงการนำร่องกับหน่วยงานใน 15 จังหวัดชายฝั่งทะเล กำหนดพื้นที่ชายหาด 24 แห่ง ให้เป็นชายหาดปลอดจากการสูบบุหรี่และทิ้งก้นบุหรี่และขยะอื่น

Ref : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/782299

News & Activities